วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กัมพูชาเปิดอีกแห่ง คาสิโนใหญ่ชายแดนเวียดนาม

ไททันคิงคาสิโน (Titan King Casino) จะเปิดให้บริการในวันที่ 26 ก.พ. ที่ด่านชายแดนบาเว็ต จ.สวายเรียง (Svay Rieng) ห่างจากกรุงพนมเปญไปทางทิศตะวันออกราว 120 กม.

กาสิโน แห่งใหม่มีเนื้อที่ 2.5 เฮกตาร์ และ จะมีการจ้างพนักงานถึง 6,000 ตำแหน่ง นายกิต เทียง (Kith Thieng) เจ้าของสถานบันเทิงแห่งใหม่บอกกับรอยเตอร์ในวันอังคาร (16 ก.พ.)
นายเทียงซึ่งสนใจในธุรกิจด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหารจานด่วน กิจการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และยังเข้าถือหุ้นในธนาคารและสถานีโทรทัศน์อีกหลายแห่ง กล่าวว่า เขาต้องการที่จะช่วยภาคธุรกิจบันเทิงของประเทศให้ฟื้นตัวกลับมาหลังจาก วิกฤติเศรษฐกิจโลก

“นักพนัน ส่วนใหญ่จะเป็นชาวเวียดนาม แต่เป้าหมายของผมคือการดึงดูดผู้คนจากประเทศต่างๆ” นายเทียงกล่าว พร้อมแจงอีกว่า “ผมต้องการชี้แจงความที่ว่ากัมพูชามีสถานที่เพียงพอสำหรับสร้างความบันเทิง”
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นแหล่งรายได้หลักอันดับสองของกัมพูชา รองจากภาคการเกษตร
ข้อมูลของกระทรวงการคลังระบุว่า ในปี 2551 กัมพูชาสามารถสร้างรายได้รวม 19 ล้านดอลลาร์จากคาสิโน 29 แห่ง แต่ลดลงเหลือเพียง 17 ล้านดอลลาร์ในปี 2552 ซึ่งเป็นผลจากการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าและความตึงเครียดที่เพิ่ม ขึ้นในบริเวณชายแดนด้านประเทศไทย
ชาวไทยเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรม คาสิโนของกัมพูชา เนื่องจากการพนันในรูปแบบต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย ซึ่งชาวไทยนับพันคนมักจะเดินทางไปยังสถานบันเทิงและคาสิโนที่อยู่บริเวณชาย แดนเสมอ
ในข้อความที่แสดงอยู่ในเว็บไซต์ของคาสิโนแห่งใหม่ (titankingcasino.com) นั้น นายเทียงกล่าวว่า บาเว็ตพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก และกลายเป็นศูนย์กลางความบันเทิงของภูมิภาคเทียบเท่ากับลาสเวกัสและมาเก๊า
นายเฮียร สุพักตรา (Hear Sopheaktra) ผู้ช่วยนายเทียงกล่าวว่า สถาน คาสิโนแห่งนี้จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กัมพูชาซึ่งจะเริ่มเปิด การซื้อขายในปลายปี 2553 นี้
บริษัทนากาคอร์ป ( Naga Corp) ซึ่งในปัจจุบันเป็นผู้ดำเนินกิจการคาสิโนเพียงรายเดียวในกรุงพนมเปญ โดยมีใบอนุญาตให้เปิดกิจการได้ไม่จำกัดจำนวนแห่งภายในบริเวณ 200 กม. รอบๆ เมืองหลวง จนถึงปี 2608 แต่กลุ่มธุรกิจนี้ก็มีสถานการพนันเพียงแห่งเดียวในกัมพูชา
บริษัทนากาคอร์ป ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงคาดว่า จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 30% ในปี 2553 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว และการเติบโตในอนาคต จะขับเคลื่อนไปโดยนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะหลั่งไหลมายังกัมพูชาอีกเป็น จำนวนมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น